ชื่อนามสกุลของคนไทใหญ่

         หลายคนคงสงสัยนามสกุลของคนไทใหญ่ ว่าทำไมต้องขึ้นด้วยคำว่า จาย ลุง ปู่ จอง ส่างฯลฯ ปกติคนไทใหญ่ไม่มีการใช้นามสกุล มักใช้เขียนเฉพาะชื่อเท่านั้น แต่มักจะพ่วงด้วยลักษณะสัณฐานบุคคล ภูมิลำเนา เช่น มีชื่อว่า "คำ" มีสัณฐานสูง ก็จะเรียกว่า "คำสูง" ชื่อ "หอม" อยู่เมืองแสนหวี ก็จะเรียกว่า "หอมแสนหวี" เป็นต้น
         คนไทใหญ่รุ่นก่อนๆที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ใน จ.แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย รวมถึงคนไทใหญ่ที่อพยพมาประมาณ ๔๐ ปี-๑๐๐ ปี เป็นบุคคลมีสัญชาติไทย ปัจจุบันได้ทำการเปลี่ยนนามสกุลเป็นแบบไทย-สันสกฤต เวลาเห็นชื่อสกุล จึงดูไม่ออกว่าเป็นคนไทใหญ่ หรือมีเชื้อสายไทใหญ่ มีเพียงส่วนน้อยที่ยังคงใช้นามสกุลที่มีคำว่า จาย ลุง ปู่ จอง ส่างฯลฯ
ในขณะที่รับการจัดทำทะเบียนประวัติ เมื่อถูกถามว่านามสกุลอะไร จำต้องนำเอาชื่อบิดา หรือชื่อปู่ ทวด ย้อนหลังกลับไปเท่าที่จะจำได้ เช่น ชื่อ แก้ว พ่อชื่อ ลุงหลู่ ได้ชื่อ แก้ว ลุงหลู่ ชื่อ หล้า ตาชื่อ ทุน ได้ชื่อ หล้า ลุงทุน
ขอเล่าให้ฟัง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มีความภูมิใจ ไม่รู้สึกเขินอาย เข้าใจความหมายนามสกุลของตนเอง ดังนี้
         คำว่า จาย เป็นคำนำหน้าผู้ชายในภาษาไทใหญ่ เทียบได้กับ นาย
คำว่า ลุง เป็นชื่อที่ใช้เรียกพี่ของพ่อ หรือพี่ของแม่ รวมถึงผู้มีอายุมากกว่าพ่อแม่ (ถามว่า ทำไม ไม่บอกชื่อเฉยๆโดยไม่มีคำว่า ลุง นำหน้า ตอบว่า การระบุว่าลุงนำหน้า เป็นการให้เกียรติ แสดงความเคารพ ซึ่งเป็นคำสำหรับผู้อื่นเรียกด้วย)
คำว่า ปู่ ในภาษาไทใหญ่ใช้เรียกน้องของพ่อเฒ่า แม่เฒ่า (น้องของปู่ย่าตายาย) และเป็นการให้เกียรติ เช่นเดียวกันกับการเรียกว่าว่าลุง
จอง ใช้เรียกบุคคลที่ช่วยขวนขวายงานวัด เป็นคนที่คอยช่วยเหลือพระ อยู่ในศีลกินในธรรม หรือเป็นไวยาวัจกร ว่า "ปู่จอง" (ใครที่มีนามสกุลว่า จอง นำหน้า ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเชียวนะ)
ส่าง ใช้เรียกบุคคลที่เคยบวชเรียน มีความรู้ ผ่านการศึกษามาจากวัดแล้ว หรือผ่านการบวชเป็นส่างลองมาแล้ว
         นี่เป็นคำนำหน้านามสกุลเพียงบางส่วน ต่อไปจะทำความเข้าใจชื่อสกุลต่อไป หากชื่อเป็นภาษาไทใหญ่ เช่น เมือง วัน ยอด มี ใจ เหล่านี้้ เป็นผู้ที่อาจไม่เคยได้บวช ถ้าเป็นชื่อภาษาบาลี เช่น ติ กอหลิ่ง กูนะ เหล่านี้ หมายถึงคนที่ผ่านการบวชมาแล้ว


Mong, Muang เมือง หมายถึง เมือง เช่นเดียวกับภาษาไทย
Thi ติ, ติ๊ หรือตี้ ย่อมาจาก หนั่นติ๊ ในภาษาไทยว่า นันทิ หมายถึง ความเพลิดเพลิน (อย่าคิดว่าติเตียน)
Hoe เฮิง หมายถึง เรือง-เริง (รุ่งเรือง)
Thun, Htun ทุน หรือ ทูล หมายถึง ดี เช่นวันทุนเป็นวันดี หรือคนนี้อาจเกิดวันทุนคือวันดี
(ทุน ไม่ได้หมายถึงต้นทุน)
Sai, Tsai, Zai, Jai, Jhai จาย หมายถึง ผู้ชาย
Hla, La หล้า ในภาษาไทใหญ่ หมายถึง คนสุดท้อง หรือในภาษาพม่า หมายถึง คนที่มีรูปร่างดี
Oo, U อู หมายถึง น่ารักน่าทนุถนอม
Khunna, Hkunna กูนะ หมายถึง Khun, Hkun คุณ เพี้ยนมาจากคุณะ กูนะ กุ่งนะ กุ่นนะ
(อย่าเข้าใจว่าเป็นคำเรียกตัวเองละ)
Seng, Hseng, Saeng, Hsaeng แสงคำ แสงหมายถึงเพชร
Kham คำ หมายถึงทอง
Inta อินต๊ะ อิ่งต่า อิ่งต้า อินตา หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่ เช่นกับ อินทะ พระอินทร์ ผู้ยิ่งใหญ่
Leng, Laeng แหลง หมายถึง แดง (สีแดง)
Yee, Yi ยี, ยี่ หมายถึง ที่ ๒ คนนี้อาจเกิดเดือนยี่ หรือเกิดมาเป็นคนที่ ๒
Sa, Hsa ส่า หมายถึง สบาย เช่น ส่าย่า เทียบกับภาษาไทยว่า สงบ สันติ
Hsanta, Chanta, Janta Tsanta จันต๊ะ หมายถึง ดวงจันทร์ เช่นกับ จันทะ
Mu, Moo มู หรือ มูหลิ่ง ย่อมาจาก มุนิน หมายถึงผู้รู้
Aw, Aon ออ อาจย่อมาจาก Awwata ออหว่าต้า เช่นกับ โอวาทะ คำสอน
(ไทใหญ่ออกเสียง ออ = ไทยออกเสียง โอ)
Na นะ อาจย่อมาจาก จิ่งนะ เช่นกับ ชินะ หมายถึงผู้ชนะ
Jing, Tsing, Hsing จิ่ง อาจย่อมาจาก จิ่งนะ จิ่งต่า จิ่งวุน จิ่งปาน ฯลฯ
( Kyin หรือ จิ่ง เพี้ยนจากภาษาพม่า "เจ่ง" ซึ่งหมายถึงเพชรพลอย
 Jingta, Hsingta, Tsingta จิ่งต่า เช่นกับ จินทะ หมายถึงผู้สั่งสม อีกประการหนึ่ง จิ่งต่า จินตะนะ
หมายถึงความคิด
Jingwun, Tsingwun จิ่งวุน เช่นกับ ชินวงศ์ หมายถึง วงศ์ผู้ชนะ
Jingparn, Jingpan, Tsingparn, Tsingpan จิ่งปาน หมายถึง ดอกเพชรดอกพลอย
Nu นุ อาจย่อมาจาก อนุชา ซึ่งหมายถึงน้อง หรือเป็นคนนุ่มนวล
Hlu หลู่ หมายถึง การให้ทาน ผู้ให้ทาน เช่น จายหลู่ (หลู่ เป็นคำยืมจากภาษาพม่า)
Saw, Hsaw, Tsaw จอ หมายถึง เช้า (ไม่ใช่ปีจอ)
Panta, Hpanta  ปันต๊ะ ย่อมาจากชื่อม้า ปัณฑวะ
Panti, Hpanti ปันติ ปันที เพี้ยนมาจาก ปันติยะ หรือ ภัณฑิยะ
Nanta หนั่นต่า นันทา นันต้า เช่นกับ นันทะ หมายถึงความเพลิดเพลิน
โหย่ ตั้งตามชื่อพม่า
หน่วย หมายถึง ฤดูร้อน
Kon กอน หมายถึง ดำรง ตั้งมั่น
Non, Noun นน หมายถึง นุ่มนวล
Kawnling, Kawhling กอหลิ่ง กอหริ่ง เพี้ยนจาก โกลิยะ (ชื่อเมือง)
Sang, Hsang, Tsang จาง (คำนำหน้า) หมายถึงคนที่เป็นผู้อุปัฏฐากบวชพระ
ลุงจาง ป้าจาง ป้อจาง แม่จาง
Ya, Nya ยะ หมายถึง เวลาพลบค่ำ ยามเย็น สายัณห์
จองตากา (จอง-วัด/ตากา-ทายก ทายกวัด)
หมายถึงผู้ที่สร้างวัด ดูแลวัด
Aung, Ong อ่อง หมายถึง ชนะ
Hkum, Kum ก่ำ หมายถึง สีม่วง
Ya, Nya หย่า หญ่า ย่อมาจาก ปิ่งหญ่า หรือปัญญา
Lin, Hlin หลิ่ง เช่นกัน ลิน
Say ใส หมายถึง สะอาด ผ่องใส
สาม หมายถึง คนที่สาม
Awta ออต๊ะ ย่อมาจาก ออหว่าต๊ะ หมายถึง โอวาทคำสอน
Aungkham อ่องคำ หมายถึง ชนะ-สุวรรณ (ทองคำ)
Maung หม่อง หมายถึง นาย (เป็นคำนำหน้าพม่า ซึ่งคนไทใหญ่เคยนิยม(บ้า)พม่าในยุคหนึ่ง นำมาเพิ่มคำนำหน้าชื่อตัวเอง)
Tiya, Htiya, Thiya ติยะ ย่อมาจาก นันทิยะ (ยินดี)
Parng, Pang, Hpang ป่าง หมายถึง อากาศสว่างสดใส
Kaw, Kor กอ อาจย่อมาจาก กอหลิ่ง
Wunna หวุ่นนะ หมายถึง เชื้อชาติ (วรรณะ)
ยุ่น (ไม่ใช่ญี่ปุ่น) หมายถึงดี มีค่า
Pan, Hpan ปั่น อาจย่อมาจาก ปัณฑวะ
Wi วิ อาจย่อมาจาก วิลาสะ (กว้างขวาง) วิมะละ (สวยงาม)
Jingtamuni, Tsingtamuni, Hsingtamuni จิ่งต่า อาจได้รับนิยมจาก จิ่งต่ามุนิ (จินตมุนี)
Khong, Hkong ข่อง สีชมพู
Khamleang, Khamleng, Khamhleng คำแหลง/คำแดง หมายถึง ทองสีแดง
Yarnna, Yanna หยั่นนะ เพี้ยนจาก ญาณะ (ความรู้)
Wahling, Waling หว่าหลิ่ง วรินทะ (ผู้ยิ่งใหญ่สุด)
Metha เหม่ถ่า หมายถึง เมธา ผู้มีปัญญา
Mon มน หมายถึง กลม
Suhling, Hsuhling สุหริ่ง สุรินทะ ผู้เป็นใหญ่โด่งดัง
ส่วย หมายถึง ทอง
Su สุ ซุ หมายถึง ดี อาจย่อมาจาก สุจิ่งต่า สุนันต่า
จ๋ามคำ ชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง
Muling มูหลิ่ง เช่นกัน มุนิน หมายถึง ผู้รู้
Ku กู่ หมายถึง เพิ่งตูม กำลังจะบาน
จะเร หมายถึง ทิดที่สึกมาจากการเป็นพระ แล้วทำหน้าที่มัคนายก จะเร ย่อมาจาก จริยะ หรืออาจารย์
ทุกคำมีความหมาย วันหน้าหากมีคนสงสัยถามถึงนามสกุลแปลกๆนี้
จะได้เล่าให้เขาฟังได้อย่างภาคภูมิใจ
จันโทภาส นิราศปันนนคร
๒๑/๑/๒๕๖๑

 Cr. FB นามสกุลไทใหญ่










ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คำทับศัพท์ Shan(TAIYAI) = English